ไทยคือประเทศที่คุณควรสำรวจตั้งแต่เหนือจรดใต้ เพราะมีความงามหลากหลายจนเที่ยวไม่หมดในครั้งเดียว ไทยมีชื่อเสียงด้านอะไร? ทั้งวัดโบราณ สถาปัตยกรรมสมัยใหม่ ชีวิตยามคืนที่คึกคัก ชายหาดอันเงียบสงบ พระราชวังหรูหรา และตลาดพื้นบ้าน ที่นี่คือดินแดนของธรรมชาติอันเป็นเอกลักษณ์และมรดกทางวัฒนธรรมอันล้ำค่า แล้วสถานที่ไหนที่นักท่องเที่ยว “ต้องไปให้ได้”?
สถานที่ท่องเที่ยวในกรุงเทพฯ
วิธีที่ดีที่สุดในการเริ่มต้นการสำรวจราชอาณาจักรไทยคือเมืองหลวง กรุงเทพฯ เต็มไปด้วยสิ่งที่จะทำให้แม้แต่นักท่องเที่ยวที่พิถีพิถันที่สุดต้องประทับใจ แต่ควรไปที่ไหนก่อน?
วัดอรุณ – สัญลักษณ์ของเมืองหลวง
วัดอรุณติดอันดับ “อาคารชื่อดังของไทย” ด้วยคุณค่าทางวัฒนธรรม และถือเป็นสัญลักษณ์แห่งอัตลักษณ์ของชาวไทย วัดนี้ดูตระการตา: สูงราว 70 เมตร เป็นกลุ่มโบราณสถานที่มีปราสาทประธาน 1 องค์ และปราสาทบริวารอีก 4 องค์
วัดนี้เป็นที่รู้จักในชื่อ “วัดแจ้ง” เพราะดูวิเศษยามอรุณรุ่ง แสงอาทิตย์ยามเช้าสาดกระทบยอดปราสาทที่ประดับด้วยกระเบื้องลายคราม สร้างเป็นแสงสีอันน่าหลงใหล
พระบรมมหาราชวังและวัดพระแก้ว
พระบรมมหาราชวังคืออีกหนึ่งกลุ่มโบราณสถานอันเป็นสัญลักษณ์ ประกอบด้วยวัด ห้องสมุด แกลเลอรี และเจดีย์ ก่อสร้างตั้งแต่ปี 1780 ด้วยพระบรมราชโองการของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช (รัชกาลที่ 1) ปัจจุบันพระบรมวงศานุวงศ์ไม่ได้ประทับที่นี่อีกต่อไป แต่ยังใช้จัดพระราชพิธีและงานรับรองระดับชาติ
วัดพระแก้วคือสัญลักษณ์แห่งราชอาณาจักร และจัดอยู่ในรายชื่อโบราณสถานสำคัญของไทย ตามตำนาน พระพุทธรูปหยกถูกค้นพบในปี 1430 ในเจดีย์ที่พังทลาย และถูกอัญเชิญผ่านเมืองต่างๆ จนมาประดิษฐานที่กรุงเทพฯ วิหารที่สร้างขึ้นเพื่อประดิษฐานพระพุทธรูปนี้ทำจากทองคำ ใหญ่โตอลังการ ประดับด้วยกระจกสีและสัญลักษณ์พุทธแบบดั้งเดิม
ตลาดน้ำ – เสน่ห์แบบไทยแท้
หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวสุดแปลกตาของกรุงเทพฯ คือตลาดน้ำ พ่อค้าแม่ค้าพายเรือไม้ขายของไปตามคลอง ส่วนใหญ่ตั้งอยู่นอกใจกลางเมือง ได้แก่:
- ตลาดน้ำคลองลัดมะยม
- ตลาดน้ำตลิ่งชัน
- ตลาดน้ำคลองบางหลวง
ที่ตลาดน้ำ คุณสามารถชิมอาหารท้องถิ่น สัมผัส “ไทยแท้” เรียนรู้วัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ และแม้แต่ให้อาหารปลาสวาย หรือล่องเรือชมวัดริมคลอง
ความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติของไทย
แต่สิ่งที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวไม่ใช่แค่โบราณสถานเท่านั้น ไทยยังมีธรรมชาติอันน่าทึ่ง: ทะเล ป่าดิบ พรรณไม้แปลกตา น้ำตก ภูเขา และต้นไม้โบราณ แล้วควรเริ่มจากที่ไหนเพื่อสัมผัสความงามทางธรรมชาติของไทย?
อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ – “ยุโรปแห่งเมืองไทย”
หากอยากหลงใหลกับทิวทัศน์อันงดงามของไทย ให้ไปที่อำเภอปากช่อง เพราะภูมิทัศน์แบบชนบททำให้ที่นี่ได้ชื่อว่า “ยุโรปแห่งเมืองไทย” — ทุ่งหญ้าสีมรกต ฟาร์มเรียงราย และไร่องุ่นเพิ่มเสน่ห์ให้มากขึ้น แต่สิ่งที่โดดเด่นที่สุดคืออยู่ใกล้อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่
ถ้าคุณสนใจอะไรมากกว่าสิ่งก่อสร้างและโบราณสถาน อุทยานเขาใหญ่คือคำตอบ มีสิ่งที่น่าทึ่งมากมาย เช่น:
- พืชมากกว่า 2,000 ชนิด;
- ระบบนิเวศหลากหลาย — ตั้งแต่ทุ่งหญ้าจนถึงป่าดิบชื้น;
- โอกาสชมสัตว์ป่าหลากหลายสายพันธุ์;
- น้ำตกกว่า 40 แห่ง;
- จุดชมวิวหลายจุด.
คุณสามารถเดินป่าในอุทยานได้ แต่ควรมาช่วงฤดูแล้ง (พฤศจิกายน–เมษายน) เพื่อความสะดวกในการท่องเที่ยว
น้ำตก ป่าดิบ และซาฟารี
พื้นที่ส่วนใหญ่ของไทยปกคลุมด้วยป่าดิบ — ผสมผสานระหว่างพืชแปลกตา ต้นไม้ผล ป่าสัก ปาล์ม ไม้ไผ่ และอื่นๆ อีกมากมาย ป่าดิบแท้ๆ สามารถพบได้ที่:
- อุทยานแห่งชาติเขาสก;
- จังหวัดพังงา;
- อุทยานแห่งชาติสิรินาถ.
ไทยยังมีสวนสัตว์เปิด (ซาฟารีปาร์ก) ที่คุณสามารถชมสัตว์ในธรรมชาติ สวนซาฟารีเวิลด์ในกรุงเทพฯ เป็นที่นิยมที่สุด แต่โปรดจำไว้: สัตว์ที่นี่เป็นสัตว์ป่า อาจอันตรายได้ — ห้ามสัมผัสหรือให้อาหาร
ไทยคือสวรรค์ของคนรักน้ำตก! เกือบทุกจังหวัดมีน้ำตก น้ำตกยอดนิยมได้แก่:
- น้ำตกโตนงาช้าง (น้ำตกช้าง) ที่หาดใหญ่ — ชื่อมาจากรูปร่างคล้ายงาช้าง;
- น้ำตกแม่ยะ ที่ดอยอินทนนท์ — มีน้ำตกชั้นซ้อน;
- น้ำตกเอราวัณ ที่กาญจนบุรี — น้ำสีฟ้าใสเหมือนหยก.
สถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติอันโด่งดังของไทยมีให้เลือกทุกรสนิยม แต่โปรดระวัง: ความงามบางครั้งอาจอันตราย — เที่ยวอย่างระมัดระวังเสมอ
ภาคเหนือของไทย – หัวใจทางวัฒนธรรมของประเทศ
ถ้าไทยสำหรับคุณไม่ใช่แค่การนอนอาบแดดบนหาดทรายสีฟ้า ลองมองไปที่ภาคเหนือของราชอาณาจักร ที่นี่ คุณจะได้เห็นรีสอร์ตยอดนิยมในมุมใหม่ สำหรับผู้ที่เคยมาภาคเหนือแม้แต่ครั้งเดียว จะรู้สึกเหมือนเข้าสู่อีกโลกหนึ่ง — ที่นี่คือ “หัวใจทางวัฒนธรรม” ของไทย เพราะจังหวัดต่างๆ เต็มไปด้วยโบราณสถาน และเป็นศูนย์กลางของเทศกาลและวันหยุดสำคัญ
โบราณสถานทางวัฒนธรรมที่สำคัญที่สุดของไทยส่วนใหญ่อยู่ในสองเมือง: เชียงใหม่ และ เชียงราย
เชียงใหม่ – เมืองกาแฟและสตรอว์เบอร์รี
เชียงใหม่คือเมืองใหญ่อันดับสองของไทย และเป็นที่รู้จักในฐานะ “เมืองผลไม้และกาแฟ” สตรอว์เบอร์รีปลูกกันเป็นทุ่งกว้าง ด้วยอากาศเย็น จึงเก็บเกี่ยวได้ตลอดปี คุณสามารถซื้อสตรอว์เบอร์รีหวานๆ ได้ที่ตลาดวโรรส
อีกหนึ่งข้อดีของอากาศดีคือไร่กาแฟ เชียงใหม่ปลูกอาราบิก้า — หนึ่งในกาแฟคุณภาพดีที่สุดของโลก นักท่องเที่ยวควรลอง “โอเลี้ยง” — กาแฟเย็นแบบท้องถิ่นที่ใส่ธัญพืช นมข้น และน้ำแข็ง ที่หมู่บ้านขุนช่างเคี่ยน คุณยังสามารถดูการคั่วกาแฟและซื้อกลับบ้านได้
สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังอื่นๆ ในเชียงใหม่ ได้แก่:
- วัดเจดีย์หลวง: วัดโบราณศตวรรษที่ 15 อยู่ในย่านเมืองเก่า;
- วัดพระธาตุดอยสุเทพ: วัดพุทธ-ฮินดู ตั้งอยู่เชิงดอย;
- สวนสาธารณะการ์เด้น คาเฟ่: มีทะเลสาบสวย จัดกิจกรรมโยคะและกีฬาบ่อยครั้ง;
- ศูนย์ช่วยชีวิตช้าง: ชมช้างในที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติ.
หากอยากชมวิวมุมสูงของจังหวัด ให้ไปอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ — ที่มียอดดอยอินทนนท์ สูงที่สุดในไทย
เชียงราย – วัดขาวและวัดโบราณ
เชียงรายก็มีสถานที่น่าสนใจไม่แพ้กัน ตั้งอยู่ห่างจากลาวและพม่าเพียง 55 กิโลเมตร บรรยากาศเต็มไปด้วยความเป็นศิลปิน ความเก่าแก่ และความสงบ ผู้คนเป็นมิตรและรักษาขนบธรรมเนียมโบราณ เชียงรายดึงดูดนักท่องเที่ยวด้วยสถานที่ทางศาสนา:
- วัดร่องขุ่น (วัดขาว): ประกอบด้วยอุโบสถหลัก วิหารทอง และหอศิลป์ สีขาวบริสุทธิ์สื่อถึงความบริสุทธิ์ของพระพุทธเจ้า กระจกที่ประดับสื่อถึงปัญญา ภายใต้แสงแดด วัดนี้ดูเหมือนปราสาทน้ำแข็งของราชินีหิมะ;
- วัดน้ำเงิน: สีน้ำเงินสื่อถึงการละวางวัตถุ จุดเด่นคือพระพุทธรูปสูง 6.5 เมตร;
- วัดพระสิงห์: หนึ่งในวัดเก่าแก่ที่สุดของราชอาณาจักร สถาปัตยกรรมสะท้อนสไตล์ล้านนา.
อย่าลืมไป “ไนท์บะซาร์” ด้วย! ที่นี่คุณจะได้ของที่ระลึก อาหารข้างทาง อาหารไทย และสินค้าแฮนด์เมดแบบไม่ซ้ำใคร
สถานที่อันเป็นสัญลักษณ์อื่นๆ ในไทย
นักท่องเที่ยวยังสามารถสำรวจเมืองและหมู่บ้านอื่นๆ ได้ อโยธยา — เมืองเก่าหลวง — ให้ประสบการณ์อันน่าจดจำ ปัจจุบันเต็มไปด้วยรูปปั้นและซากปรักหักพัง รวมถึงวัดไทยชื่อดัง เช่น วัดไชยวัฒนาราม ที่สมมาตรงดงาม และวัดมหาธาตุ ที่มีพระพุทธรูปหัวโผล่จากซอกไม้ — เป็นภาพที่เป็นสัญลักษณ์ของ “สยามแท้”
ขอนแก่นอาจไม่ใช่เมืองท่องเที่ยวยอดนิยม แต่เหมาะมากสำหรับสัมผัสวิถีชีวิตท้องถิ่น ที่นี่มีชื่อเสียงด้านการทอผ้าไหม คุณสามารถชมช่างทอทำงานได้เลย
หากอยากผสมผสานการเที่ยวเชิงวัฒนธรรมกับพักผ่อนริมทะเล ลองพิจารณารีสอร์ตยอดนิยมเหล่านี้:
- ภูเก็ต: ชายหาดหลากหลาย — ทั้งที่เงียบสงบที่เหมาะกับครอบครัว และถนนริมทะเลที่คึกคัก ย่านเมืองเก่ามีสถาปัตยกรรมโคโลเนียลน่าหลงใหล และสามารถล่องเรือไปหมู่เกาะสิมิลันได้;
- กระบี่: สวรรค์ของนักดำน้ำและสน็อกเกิล น้ำใสแจ๋ว โลกใต้ทะเลหลากหลาย สามารถไปเกาะพีพีได้ง่าย;
- พัทยา: สำหรับผู้แสวงหาความตื่นเต้น ชีวิตยามคืนคึกคักจนถึงรุ่งสาง ถ้าอยากพักจากความวุ่นวาย ลองไปเที่ยวปราสาทสัจธรรมที่แกะสลักอย่างวิจิตร หรือสวนพฤกษศาสตร์นงนุช.
แลนด์มาร์กของไทยยังรวมถึงหมู่บ้านหลากสีสัน นักท่องเที่ยวมาเพื่อสัมผัส “จิตวิญญาณไทยแท้”: ปาย — หมู่บ้านในภูเขา — มีชื่อเสียงด้านพระอาทิตย์ตกสวยสุด; หมู่บ้านเกาะปันหยีในภาคใต้ให้คุณดื่มด่ำกับวัฒนธรรมท้องถิ่น; ส่วนหมู่บ้านบางปัตทางตอนใต้ — ชุมชนชาวประมง — ให้คุณได้ชิมอาหารทะเลสดใหม่ พายเรือคายัค หรือไปตกปลา
สรุป
ไทยคือประเทศที่หลากหลายและเต็มไปด้วยมิติ ผู้ที่คิดว่าไทยมีดีแค่การพักผ่อนริมชายหาดนั้นคิดผิดอย่างยิ่ง นอกเหนือจากหาดทรายขาวและทะเลใส ที่นี่ยังมีป่าดิบ ภูเขา น้ำตก ทุ่งหญ้า... และโบราณสถานทางประวัติศาสตร์มากมาย: พระราชวัง วัดวาอาราม ตึกระฟ้าสูงเสียดฟ้า และร่องรอยสถาปัตยกรรมยุคโคโลเนียล
หากคุณวางแผนจะมาเที่ยวไทย อย่าลืมรวมหลายเมืองและหมู่บ้านไว้ในแผนการเดินทาง กล้าออกไปสู่ที่ห่างไกลจากความวุ่นวาย และสัมผัสธรรมชาติอย่างแท้จริง — นั่นคือวิธีเดียวที่คุณจะได้เห็นราชอาณาจักรแห่งนี้ในทุกความงดงาม
